10 เมนูควรระวัง "ช่วงหน้าร้อน" เสี่ยงอาหารเป็นพิษ
บทความสุขภาพ
10 เมนูควรระวัง "ช่วงหน้าร้อน" เสี่ยงอาหารเป็นพิษ
ประเทศไทยขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วง ฤดูร้อน เรียกว่าอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลที่ตามคือ เชื้อโรคหลายชนิดเจริญเติบโตได้ดี และอาจทำให้อาหารบูดเสียได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยด้วย โรคอาหารเป็นพิษ ไม่อยากหมดเรี่ยวแรงจากการขับถ่ายหรืออาเจียนบ่อย ๆ ก็ต้องระมัดระวังในเรื่องการรับประทานอาหาร
โรคอาหารเป็นพิษ อาการเป็นอย่างไร?
หากมีอาการ 1-2 ข้อ ให้สงสัยว่าเป็นโรคอาหารเป็นพิษชนิดรุนแรง
- อาเจียนรุนแรง หรือถ่ายมากผิดปกติ (มากกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน)
- มีไข้
- ซึม ไม่มีแรง อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น
- ปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเกิน 6 ชั่วโมง
- หากเป็นเด็กเล็ก อาจมีอาการปากแห้ง ตาโหล ร้องให้แบบไม่มีน้ำตา
วิธีดูแลตนเองเมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษ
- ปกติสามารถหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยให้รักษาตามอาการคือ รับประทานเกลือแร่ทดแทนและยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน
- งดรับประทานอาหารประเภทนม ผลไม้ อาหารรสจัด อาหรสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารหมักดอง
- พักผ่อนให้มากขึ้น ดื่มน้ำมาก ๆ งดการทำกิจกรรมหนัก ๆ เช่น ออกกำลังกาย ทำงานบ้านหนัก ๆ
- ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์
10 เมนูควรระวัง "ช่วงหน้าร้อน" เสี่ยงอาหารเป็นพิษ
- จ่อม/ก้อย/ลาบดิบ
- อาหารประเภทยำ
- อาหารทะเล
- ข้าวผัด/ข้าวผัดโรยเนื้อปู
- ขนมจีน
- สลัดผัก
- อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิ
- ส้มตำ
- ข้าวมันไก่
- น้ำแข็งที่ไม่สะอาด
เมนูอาหารเหล่านี้ควรรับประทาน โดยยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” คือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากเป็นอาหารกล่องควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และรับประทานภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ หากมีรูป รส กลิ่น สีผิดปกติไม่ควรรับประทาน และก่อนหยิบจับหรือรับประทานอาหาร ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง
ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา