"เหงือกร่น" ปัญหาที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้!
บทความสุขภาพ
21 พ.ค. 2567
ครั้ง
"เหงือกร่น" ปัญหาที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้!
เหงือกร่น เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อเหงือกที่อยู่รอบๆ ฟันร่นออกไป เผยให้เห็นรากฟัน เป็นปัญหาที่พบบ่อยซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ก็อาจนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมที่รุนแรงยิ่งขึ้นได้ เหงือกร่นไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรอยยิ้มของคุณเท่านั้น แต่ยังทำให้ฟันของคุณเสี่ยงต่ออาการเสียวฟันและฟันผุอีกด้วย
อาการของเหงือกร่นภาวะเหงือกร่นสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอาการใด ๆ ดังนั้นการไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากทันตานามัยและทันตแพทย์จะสังเกตเห็นสัญญาณเริ่มต้นเหล่านี้ได้ อาการเหงือกร่นที่พบบ่อยที่สุดและพบเจอด้วยตัวคุณเอง
- มีเลือดออกหลังการแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน
- มีกลิ่นปาก
- ปวดที่บริเวณขอบเหงือก หรือ เหงือกบวมแดง
- เห็นถึงรากฟันและเกิดอาการเสียวฟัน
- ฟันโยก
- เหงือกหดตัว
สาเหตุของภาวะเหงือกร่น
- สุขภาพช่องปากไม่ดี : เมื่อแบคทีเรียในคราบพลัค (ไบโอฟิล์ม) ก่อตัวขึ้นระหว่างเหงือกและฟัน ทำเหงือกบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาการอักเสบนี้อาจส่งผลให้เหงือกและโครงสร้างกระดูกหุ้มฟันเสื่อมสภาพได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเหงือกร่นและโรคปริทันต์ได้ ซึ่งเป็นภาวะเหงือกอักเสบขั้นรุนแรง
- การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันที่รุนแรงเกินไป : การใส่ใจในการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องที่ดีมาก! ควรแปรงฟันอย่างเบามือและไม่ขัดถูแรงๆ การแปรงฟันมากเกินไปอาจทำให้เคลือบฟันของคุณสึกหรอและทำให้เกิดความเสียหายและเหงือกร่นได้
- พันธุกรรม : บางครั้งปัญหาเกี่ยวกับฟันก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราเหมือนกัน หากพ่อแม่ของคุณคนใดคนหนึ่งมีภาวะเหงือกร่นคุณก็มีความเสี่ยงสูงขึ้น
- ความผิดปกติของตำแหน่งฟัน : การที่ฟันไม่เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกันหรือการสบฟันไม่ตรงแนวอาจสร้างแรงเสียดทานที่มากเกินไปและทำให้เหงือกร่นได้
- การบดและการกัดฟันของคุณ : หรือพบบ่อย ๆ ว่าการนอนกัดฟัน ซึ่งนิสัยนี้อาจทำให้เกิดปัญหากับฟันมากมาย รวมถึงเหงือกร่นด้วย การออกแรงบดกัดที่มากเกินไปอาจทำให้เหงือกสึกได้ เช่นเดียวกับการมีตำแหน่งฟันที่ผิดปกติ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : ผู้หญิงอาจต้องเผชิญกับระยะที่ฮอร์โมนมีความผันผวนรุนแรงหลายครั้งแต่ละช่วงชีวิต เช่น วัยแรกรุ่น ขณะตั้งครรภ์ และวัยหมดประจำเดือน น่าเสียดายที่ช่วงวัยต่าง ๆ ตามธรรมชาติเหล่านี้มักทำให้ผู้หญิงอ่อนแอและเกิดปัญหาเหงือกและภาวะเหงือกร่นได้มากขึ้น
- การบาดเจ็บที่เนื้อเยื่อเหงือก : เนื้อเยื่อเหงือกอาจร่นได้เมื่อมีแผลบาดเจ็บเกิดขึ้น ภาวะเหงือกร่นอาจเกิดขึ้นบริเวณจุดที่เกิดความเสียหายหรือบริเวณใกล้เคียง
- การใช้ยาสูบ : การสูบบุหรี่และการใช้ยาสูบจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเหงือกร่น เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะเกิดปัญหาทางทันตกรรมมากมาย ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงรวมถึงประสิทธิ์ภาพการหลั่งของน้ำลายแย่ลงทำให้มีคราบแบคทีเรียก่อตัวมากขึ้น
- ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและเทคนิคการแปรงอย่างอ่อนโยน
- ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำเพื่อทำความสะอาดซอกฟันและใต้เหงือก
- รับประทานอาหารให้สมดุลและลดอาหารที่มีน้ำตาลและเป็นกรด
- เลิกสูบบุหรี่หรือใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
- ใส่ยางฟันหากคุณกัดฟันขณะนอนหลับ
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย
การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี และช่วยให้คุณตรวจพบปัญหาช่องปาก รวมถึงเหงือกร่นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทันตแพทย์สามารถสังเกตเห็นสัญญาณของเหงือกร่น และให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการป้องกันปัญหาเพิ่มเติมได้
ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา