ปวดหัวตรงไหน บอกอะไรได้บ้าง?
บทความสุขภาพ
15 ม.ค. 2566
ครั้ง
ปวดหัวตรงไหน บอกอะไรได้บ้าง?
อาการปวดหัว ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ความจริงแล้วอาจไม่ปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากความเครียด ไมเกรน สมองเสื่อม เนื้องอกในสมอง หรือหลอดเลือดสมองก็เป็นได้ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอาการปวดหัวที่เป็นมีสาเหตุมาจากอะไร วันนี้เรามีวิธีเช็กว่าอาการปวดหัวที่เป็นอยู่บ่อย ๆ กำลังบอกอะไรคุณ
- ปวดหัวจากความเครียด
หากรู้สึกว่าปวดตื้อ ๆ ปวดแบบบีบ ๆ รัด ๆ ปวดเป็นวงกว้างบนศีรษะหรือปวดเบ้าตาร่วมด้วย โดยอาจร้าวลงมาที่ท้ายทอยและมักเกิดช่วงบ่ายหรือเย็น นั่นแสดงว่าถึงเวลาต้องพักผ่อนเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่กำลังตึงตัวจากความเครียด - ปวดหัวจากไซนัสอักเสบ
มีอาการปวดบริเวณจุดกึ่งกลางของใบหน้า รู้สึกปวดรุนแรงตั้งแต่โหนกแก้ม หน้าผาก รวมถึงปวดบริเวณดั้งจมูก หว่างคิ้ว และหัวตา อาการปวดจากไซนัสอักเสบมักมาพร้อมกับอาการคล้ายหวัดเรื้อรัง หายใจติดขัด ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกสีเขียว เป็นไข้ และอ่อนเพลีย - ปวดหัวไมเกรน
ปวดตุบ ๆ ปวดแค่ข้างใดข้างหนึ่ง และยิ่งปวดมากขึ้นเมื่อเจอแสงจ้า เสียงดัง หรือลุกเดิน อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการเหล่านี้จะเกิดนาน 4-72 ชั่วโมง และดีขึ้นเมื่อพักผ่อนอยู่นิ่ง ๆ ในห้องที่มืดและเย็น - ปวดหัวคลัสเตอร์
การปวดหัวคลัสเตอร์นี้จะเป็นการปวดแบบข้างเดียว แต่มีระดับความรุนแรงกว่าการปวดไมเกรน! อาจมีอาการปวดเบ้าตา ตาแดง น้ำตาไหล รวมไปถึงการมีเหงื่อออกบริเวณศีรษะข้างที่ปวดร่วมด้วย ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นไม่นาน ราว ๆ 5 นาที ถึง 3 ชั่วโมง
เมื่อไหร่ที่มีอาการปวดหัวรุนแรงฉับพลัน ประกอบกับมีอาการปากเบี้ยว พูดไม่ได้ เริ่มมีปัญหาเรื่องการมองเห็นหรือการเดิน รวมไปถึงการมีอาการชักทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ควรปล่อยไว้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองและเนื้องอกในสมองได้
ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา